
ในบรรดาระบบผนังอาคารที่ใช้กันทุกวันนี้ อิฐยังคงเป็นวัสดุ ที่มีความนิยมอันดับต้นๆ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักที่มาก และการก่อสร้างมีขั้นตอนที่มากกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความคุ้มค่าในเรื่อง ความแข็งแรงคงทน รับน้ำหนักได้มาก ความยืดหยุ่นในการออกแบบที่ดี จากวัสดุก่อสร้างที่เป็นอิฐตากแห้ง มาจนถึงอิฐดินเผา หรือที่เรียกกันว่าอิฐมอญที่เราคุ้นเคยกัน เกิดการพัฒนาตามประเภทและลักษณะการใช้งาน หนึ่งในนวัตกรรมเหล่านั้น ก็ได้กลายมาเป็น “อิฐมวลเบา” ที่เรากำลังจะกล่าวถึงนั่นเอง
ข้อมูล : dbp
เรียบเรียง : thaidrawing
1. แข็งแรงทนทาน
ด้วยคุณสมบัติของความเป็นคอนกรีต อิฐมวลเบานั้นจะสามารถอยูได้ยาวนานมากกว่า 80 ปี ทั้งยังมีการรับน้ำหนักที่ดีกว่าอิฐมอฐเสียอีกเมื่อเทียบต่อน้ำหนัก โดยเฉพาะอิฐมวลเบาประเภทซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ทีผ่านการอบไอน้ำแรงดันสูง จนเกิดเป็นผลึก Calcium Silicate เป็นผลให้มีความแข็งแรง และยังทนความชื้นได้ดีกว่าอิฐมวลเบาประเภทอื่น
2. ประหยัดและรวดเร็ว
ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดต่อก้อนที่ใหญ่ ทำให้ช่างสามารถก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบาได้รวดเร็วกว่า ใช้ปริมาณก้อนต่อพื้นที่น้อยกว่า ทำให้ปริมาณปูนก่อและองค์ประกอบอื่นๆ น้อยลง เป็นผลทำให้การก่อสร้างรวดเร็วขึ้น
3. เป็นฉนวนอย่างดี
ด้วยความพรุนในเนื้ออิฐ ทำให้อิฐมวลเบาสามารถกันความร้อนจากภายนอกอาคารได้ดี และคงความเย็นไว้ในตัวอาคาร ช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย นอกจากนี้ อิฐมวลเบายังสามารถดูดซับเสียงและลดความดังของเสียงจากภายนอกหรือ ระหว่างห้องลงได้อีกด้วย ที่สำคัญอิฐมวลเบายังทนไฟและไม่ลามไฟได้นานกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ด้วยข้อดี ทั้งหลายที่กล่าวมา และเทคโนโลยีที่ลบด้วยข้อด้อยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแข็งแรง หรือการทนความชื้นก็ตาม อิฐมวลเบาจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการก่อสร้างอีกทางหนึ่ง หากว่าบ้านหลังหนึ่งจะต้องเริ่มจากอิฐก้อนแรก เราก็ควรจะเลือกอิฐก้อนที่ดีที่สุด ตั้งแต่ก้อนแรกจนถึงก้อนสุดท้าย เพื่อให้บ้านที่คุณรักสมบูรณ์แบบที่สุดตามที่ฝันไว้
แสดงความคิดเห็น