
ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าประตูรั้วบ้านเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกภาย นอกกับโลกภายในที่จะรับโชคลาภจากข้างนอกเข้ามาข้างในบ้านเราจึงควร ใส่ใจประตูรั้วมากเป็นพิเศษไม่ว่าจะสร้างขึ้นมาด้วยวัสดุอะไรก็ตาม
เคยมีบางคนถามว่าประตูรั้วของบ้านถ้าเป็นแบบเลื่อน เปิดควรจะเปิดไปทางฝังไหนถึงจะดีฟังแล้วก็นึกชอบใจในความช่างคิดของคนนั้น แต่ความจริงแล้วในทางฮวงจุ้ยไม่มีข้อบังคับสำหรับ เรื่องนี้ บ้านหลังไหนสะดวกจะเลื่อนประตูเปิดไปทางด้านซ้ายก็เชิญ ตามสบาย บ้านหลังไหนสะดวกจะเลื่อนประตูเปิดไปทางด้านขวาก็ไม่ถือ ว่าเป็นการผิดหลักการแต่อย่างใด
ถ้าหากบ้านไหนมีพื้นที่มากพอที่จะใช้วิธีเปิดแง้มประตูสองบานทั้งด้านซ้ายและขวาโดยไม่ใช้วิธีการเลื่อนเปิดขอแนะนำให้เอื้อมมือเปิดบานประตู เข้ามาในบ้านนะคะ อย่าเปิดออก เพื่อที่จะเปิดรับเอาสิงดีๆ เข้ามาในบ้าน ไม่ใช่เปิดออกจนทำให้โชคลาภเงินทองไหลออกไปนอกบ้านเสียหมด
เรื่องต่อมาที่น่าสนใจเกี่ยวกับประตูรั้วก็คือ เมื่อมีประตูใหญ่แล้วก็ควร จะมีประตูเล็กเสมอ เปรียบเสมือนการมีแม่มังกรแล้วก็จะต้องมีลูกมังกร ด้วย โดยตำแหน่งที่ถูกต้องของลูกมังกรคือด้านซ้ายมือเมื่อเราหันหน้าออก นอกบ้านบ้านไหนที่สร้างประตูเล็กสำหรับให้คนเดินเข้าออกไว้ทางขวามือ เราเรียกตำแหน่งนั้นว่า ‘‘ลูกเสือ” ผลเสียที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน และเรา ได้พบเห็นมาหลายเคสแล้วก็คือ ทำให้ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น มีปัญหาบ้านเล็กบ้านน้อย
พลังชี่ที่ไม่ดีจากลูกเสือตัวนี้จะส่งอิทธิพลให้พ่อบ้านเป็นคนเจ้าชู้ หรือ อาจแอบมีกิ๊กตามสมัยนิยม หนำซํ้ายังทำให้บ้านนี้มีรายจ่ายเยอะมาก อีกด้วย เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการทำประตูเล็กของรั้วบ้านไว้ทางด้าน ขวามืออย่างเด็ดขาด บางคนอาจบ่นว่าตามลักษณะทางกายภาพ ของบ้านอาจจะไม่ค่อยอำนวยเท่าไร แต่คิดว่ายอมเลียสละนิดหน่อยน่าจะดีกว่า เมื่อเทียบกับผลเสียที่จะตามมาหากไม่ปฏิบ้ติตามหลัก ฮวงจุ้ยแล้ว ก็นับว่าเป็นการอ่อนข้อที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่ตำแหน่งขวามือเท่านั้นที่เป็นอันตราย เราเคยเห็น มาว่าบางบ้านสร้างประตูเล็กไว้ตรงกลางประตูใหญ่ เข้าใจว่าเป็นเรี่องของ การดีไชน์ที่เก๋ไก๋ และประโยชน์ใช้สอยในการช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากพอ สมควร แต่เกรงว่าจะเป็นวิธีการออกแบบที่สร้างความเสียหายมากกว่าได้ ผลดี เพราะตำแหน่งของประตูเล็กเช่นนี้จะทำให้คนในบ้านมีปัญหาเรื่อง สุขภาพโดยตรงเลยค่ะ โดยเฉพาะปัญหาตั้งแต่ช่วงคอถึงบริเวณกลางลำตัว ที่ผ่านมามืตัวอย่างให้เห็นเยอะมาก จึงขอเตือนว่าใครที่ชอบใจในดีไซน์เช่นนี้ อย่าเอาสุขภาพร่างกายของ คนในครอบครัวไปเสี่ยงจะดีกว่า
พูดถึงประตูรั้วมาเสิยยืดยาว อาจจะมีหลายคนกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจว่า ถ้าหากบ้านของเราไม่มีประตูรั้วซึ่งเป็นจุดเชื่อมในการรับโชคลาภจากภายนอกเข้ามาภายในบ้าน แล้วทีนี้จะทำอย่างไรกันดีล่ะ ไม่ต้องถึงกับกุมขมับ แล้วกลับไปกินยาแก้เครียด โดยเฉพาะบ้านในต่างจังหวัดที่ทุกบ้าน ใกล้เรือนเคียงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน จึงไม่จำเป็นจะต้องมีกำแพงหรือ ประตูรั้วเพื่อแบ่งอาณาเขตบ้านเหมือนอย่างในเมืองหลวง ถ้าอย่างนั้นก็ สามารถปล่อยบริเวณหน้าบ้านของเราให้เรียบโล่งเป็นลานกว้างตามลักษณะ ที่ดีของเนินหงส์แดงได้เลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว แต่ละบ้านควรมีขอบ เขตเป็นพื้นที่ของตนเอง จากนั้นก็มาเน้นที่ประตูบ้านของเราแทน เพราะตรงจุดนี้ก็เป็นตำแหน่ง ที่เชื่อมต่อระหว่างโลกภายนอกกับโลกภายในเช่นกัน
แต่สำหรับบ้านไหนที่มีประตูรั้ว เมื่อก้าวเท้าผ่านเข้ามาภายในบ้านแล้ว ควรจะมีรูปปั้นครอบครัวหมูอยู่ใกล้ๆ ใครขับรถไปต่างจังหวัดแล้ว เจอรูปปั้นหมูดินเผาขายอยู่ตามข้างทางก็รีบแวะซื้อกันได้เลย ส่วนตำแหน่ง ที่ดีสำหรับพวกเขาให้วางไว้ด้านขวาหรือว่าด้านซ้ายก็ได้ และจะมีจำนวน 6 หรือ 8 ตัวก็ได้เช่นกัน เพราะตามตำราฮวงจุ้ยหมูเป็นลัตว์แห่งการต้อนรับขับสู้ พร้อมทั้งสื่อถึงความอิ่มเอิบสมบูรณ์พูนสุข แต่ถ้าหากว่ากันตาม ความเชื่อของไทยเรา คงต้องบอกว่าถ้าผ่านประตูรั้วเข้ามาเจอหมูแล้ว ต่อ จากนี้ไปจะทำอะไรก็ง่ายดายกลายเป็นเรื่องหมูๆ ไปหมด
เรี่องของประตูรั้วยังไม่จบลงแบบง่ายๆ หมูๆ อย่างที่คิด เพราะสิ่ง ที่กำลังจะอธิบายต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก ทีเดียว ที่สำคัญเราควรจะมีดลับเมตรฮวงจุ้ยไว้ในครอบครอง เพื่อที่จะได้ เข้าใจให้ชัดเจนมากขึ้นด้วย เพราะประตูรั้วของบ้านควรจะเป็นสิ่งที่มีขนาด เป็นมงคล ไม่ว่าจะเป็นความกว้าง ความสูง หรือแม้แต่ความหนา อย่ามอง ข้ามหรือปล่อยปละละเลยแม้แต่มิลลิเมตรเดียวเชียว เพราะขนาดเล็ก น้อยเพียงแค่นั้นก็สามารถทำให้ชีวิตเปลี่ยนได้เลย
ขนาดของประตูรั้วบ้านที่ตรงกับหมายเลขแต่ละตัวนั้นสามารถส่งอิทธิพลถึง เรื่องที่เจ้าของบ้านต้องการจะเน้นได้โดยส่วนใหญ่มักจะคำนวณให้ตรงกับ หมายเลขที่สื่อถึงเงินทองไหลมาเทมา แต่สำหรับบ้านที่มีความมั่งคั่งอยู่ แล้วถ้าอยากจะเน้นเรื่องของเกียรติยศชื่อเสียงแทนก็สามารถทำได้ หรือ บางครอบครัวที่สมาชิกมักทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เป็นประจำ ก็ให้เลือก ตำแหน่งแห่งความสามัคคี โดยวิธีคิดขนาดของประตูรั้วให้นำเอาหมาย เลขแห่งความมั่งคั่ง ซึ่งก็คือ 43 เซนติเมตรเป็นหลัก จากนั้นก็บวกหมาย เลขเข้าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ขนาดที่ต้องการ เช่น 43 บวก 2 เท่ากับ 45 คือขนาดของการมีคลังมหาสมบัติ เป็นต้น
หรือถ้าหากเจ้าของบ้านไม่ได้เน้นเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่ต้องการขนาด ของประตูรั้วที่ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน ก็สามารถ คำนวณและปรับขนาดให้เป็นมงคลได้ตามความพอใจ เช่น ถ้าอยากให้ ประตูรั้วสูงขึ้นมาอีกก็เอาหมายเลขหลัก 43 คูณ 2 จะได้เท่ากับ 86 จาก นั้นก็ให้บวกหมายเลขที่จะทำให้เงินทองไหลมาเทมา ซึ่งก็บวก 24 เข้าไป จะได้เท่ากับ 110 เซนติเมตร(86 + 24 = 110)สามารถใช้เป็นความสูงของ ประตูรั้วบ้านได้ แต่ถ้าหากรู้สึกว่ายังเตี้ยไปอีก เพราะเจ้าของบ้านต้องการความ เป็นส่วนตัวสูงมาก ก็ให้บวกหมายเลข 43 เข้าไปอีกครั้ง
ที่ร่ายยาวมาทั้งหมดนี้ อาจจะทำให้คนที่เพิ่งหันมาศึกษาศาสตร์แห่ง ฮวงจุ้ยได้ไมม่นานต้องเอามือก่ายหน้าผาก ด้วยความที่เป็นเรื่องซับซ้อนและ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการคำนวณอย่างแท้จริง อาจารย์จึงได้ตั้งใจ เขียนตารางขึ้นมา เพื่อแสดงขนาดของประตูรั้วตามแต่ใครจะต้องการเน้น ในเรื่องอะไร โดยสามารถใช้ได้กับทั้งความกว้าง ความสูง และความหนา ลองนำไปใช้กันดู ถ้าได้ผลดีอย่างไรวานบอกให้อาจารย์ด้วยก็แล้วกัน
เพียงแค่ประตูรั้วบ้านก็สามารถกำหนดอะไรในชีวิตของเราได้หลายอย่าง แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าขนาดมงคลและทิศทางมงคลแล้ว แน่ใจได้เลยว่าเมื่อ ก้าวผ่านประตูรั้วเข้ามาในบ้าน เราจะได้รับพล้งมงคลอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น