Last updated: 3 มิ.ย. 2567 | 694 จำนวนผู้เข้าชม |
1. กำหนดความต้องการของคุณ
สไตล์บ้าน:
โมเดิร์น คลาสสิก วินเทจ ฯลฯ
ขนาดพื้นที่:
จำนวนห้อง ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย
งบประมาณ:
วงเงินที่ตั้งไว้ เผื่อไว้สำหรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ฟังก์ชันการใช้งาน:
ต้องการพื้นที่ทำงาน มุมพักผ่อน สวน ฯลฯ
ความชอบส่วนตัว:
วัสดุ สี เฟอร์นิเจอร์
2. หาข้อมูลผู้รับเหมา
จากเว็บไซต์และสื่อออนไลน์:
ค้นหารีวิว ผลงาน เปรียบเทียบราคา
จากคำแนะนำของเพื่อน ญาติ หรือคนรู้จัก:
สอบถามประสบการณ์ ความพึงพอใจ
จากงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับบ้าน:
พบผู้รับเหมาโดยตรง พูดคุย เปรียบเทียบ
3. พิจารณาผู้รับเหมาแต่ละราย
ประสบการณ์:
เคยสร้างบ้านลักษณะคล้ายกันมาก่อนหรือไม่
ผลงาน:
ดูผลงานที่ผ่านมา ขอชมบ้านจริง พูดคุยกับเจ้าของบ้าน
ความน่าเชื่อถือ:
ตรวจสอบทะเบียนการค้า ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สถานะทางการเงิน
ทีมงาน:
วิศวกร สถาปนิก ช่างฝีมือ มีประสบการณ์ ทำงานเป็นทีม
สัญญา:
อ่านรายละเอียดสัญญาอย่างละเอียด เงื่อนไข การรับประกัน ช่องโหว่
ราคา:
เปรียบเทียบราคา รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตรวจสอบราคากลางตลาด
การสื่อสาร:
สื่อสารเข้าใจง่าย ตอบคำถามชัดเจน บริการดี
4. ตัดสินใจเลือกผู้รับเหมา
เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละราย:
เลือกผู้รับเหมาที่ตรงกับความต้องการ งบประมาณ และความมั่นใจ
ลองพูดคุยเพิ่มเติม:
ข้อสงสัย รายละเอียดเพิ่มเติม ความคาดหวัง
ทำสัญญา:
ระบุรายละเอียดให้ชัดเจน ครบถ้วน ถูกต้อง
5. ควบคุมการก่อสร้าง
ติดตามความคืบหน้า:
ตรวจสอบงานเป็นระยะ พูดคุยกับผู้รับเหมา
รายงานปัญหา:
แจ้งปัญหา ข้อบกพร่อง ให้ผู้รับเหมาแก้ไข
ตรวจรับงาน:
ตรวจสอบงานให้ละเอียด ครบถ้วน ถูกต้อง
คำแนะนำเพิ่มเติม
จ้างผู้รับเหมาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เปรียบเทียบราคาอย่างน้อย 3 ราย
อ่านสัญญาอย่างละเอียดก่อนเซ็น
ขอเอกสารรับประกันงาน
เก็บหลักฐานการจ่ายเงิน
สื่อสารกับผู้รับเหมาอย่างสม่ำเสมอ
การเลือกผู้รับเหมาที่ดี เปรียบเสมือนการมีหุ้นส่วนที่ไว้ใจได้ ช่วยให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น ตรงใจ และปลอดภัย
18 ส.ค. 2567